เป้าหมายหลักของห้าง (Retailer) นอกจากต้องการให้ลูกค้ารายเดิม กลับมาซื้อสินค้าซ้ำที่ห้างเราครั้งแล้วครั้งเล่า อีกความต้องการคือ การทำให้ซื้อสินค้ากลุ่มเดิมในปริมาณที่มากขึ้น อาจจะทั้งจำนวนชิ้น และหรือมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงกับศัพท์การตลาดว่า Trade up

ดังนั้น หากถามว่า โปร 2 for, 3 for ทำไปเพื่ออะไร?​
ตอบสั้นๆ คือ เป็นหนึ่งในรูปแบบ Promotion ที่จูงใจให้ Shopper / End Consumer ซื้อสินค้ามากขึ้น

  • 2 for แปลเป็นไทย คือ ซื้อ 2 ชิ้นถูกกว่า
  • 3 for แปลเป็นไทย คือ ซื้อ 3 ชิ้นถูกกว่า
Concept ของ 2 for / 3 for

Concept หลัก คือ การเพิ่มแรงจูงใจให้ Shopper / End Consumer ซื้อสินค้าหลายๆ ชิ้นแล้วจะมอบให้ส่วนลด
ดังนั้น ถ้าซื้อสินค้าแค่ชิ้นเดียว จะไม่มีการลดราคาให้

เหตุที่ต้องจูงใจให้ซื้อเยอะ เพราะพวกเราชาว FMCG มีความเชื่อว่า การที่ลูกค้าซื้อเยอะขึ้น มี Stock ของเราอยู่ที่บ้านมากขึ้น End Consumer จะ Consume (กิน/ใช้) มากขึ้นกว่าปกติ

เช่น เวลาซื้อแชมพูมาใหม่ๆ เราจะใช้เยอะ พอใกล้ๆ หมด เราจะใช้แบบงกๆ หน่อย

อีกเหตุผลหนึ่ง คือ การที่ลูกค้า Stock up สินค้าเรามากๆ ก็จะช่วยลดโอกาสที่ย้ายไปซื้อสินค้าคู่แข่ง (Brand Swtiching)

ข้อเสียของ 2 for / 3 for

ถามว่ามีข้อเสียมั๊ย ก็อาจจะมีนิดหน่อย หากใช้ไม่ถูกวิธี

เช่น ถ้าปกติ Shopper / End Consumer ซื้อสินค้าต่อครั้งเกิน 2-3 ชิ้นอยู่แล้ว การให้ส่วนลดก็เหมือนไปเฉยๆ ไม่เกิดการจูงใจให้ซื้อเพิ่ม เรียกว่า เสียเงินไปโดยไม่ได้ประโยชน์

เข้าตัวอย่างเลยละกันครับ

สินค้านม UHT ปกติซื้อให้ลูกครั้งละ 4 pack พอมีโปร 2 for ก็ยังซื้อ 4 pack เท่าเดิม แถมดีใจด้วย เพราะจ่ายเงินน้อยลง สำหรับ Supplier แบบนี้ทำให้ยอดขาย(บาท)เราตก ไปโดยใช่เหตุ

สรุป

Promotion แต่ละประเภท มีวัตถุประสงค์ไม่เหมือนกัน และเป้าประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะทำ Promotion Activitiy อะไรก็แล้วแต่ กรุณาคิดให้ดีก่อนว่า คุณต้องการหรืออยากจะได้อะไร เพื่อที่ทำแล้วจะได้ทั้งผลงาน และคุ้มค่าการลงทุน

มีเช่นนั้นแล้ว จะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และสุดท้าย ก็ต้องมานั่งอธิบายจัดซื้อว่าจะทำไปทำไมให้เหนื่อย