เวลา Buyer เรียกเราให้เข้าไปคุย
ช่วงนั่งรอ Buyer ที่สนญ. ใจคอเราจะไม่ค่อยดี ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ
พอเห็นเงา Buyer ที่เดินมาพร้อมเอกสารกองใหญ่ พอเหลือบไปเห็นเครื่องคิดเลขเครื่องยักษ์ ยิ่งเร่งให้ใจพร้อมจะวายได้ทุกเมื่อ


เชื่อว่า Supplier ส่วนใหญ่ เคยผ่านความรู้สึกนี้มาแล้ว บางคนอาจจะปรับตัวได้ แต่ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับความรู้สึกนี้ตลอด ไม่ใช่แค่ช่วงต่อรอง TTA แต่รวมถึงช่วงเสนอสินค้าใหม่ เสนอ Promotion

เคยสงสัยมั๊ยครับว่า
ทำไมจัดซื้อนี่ เก่งขนาด ถามอะไร-ตอบได้หมด?
พลางตอบ พลางพลิกกระดาษ 2-3 ฉับ ตาปัดกวาดไปมา พร้อมเสียงจิ้มเครื่องคิดเลขอย่างคล่องแคล่ว

อะไรอยู่ในเอกสารที่จัดซื้อถือมา

ข้อมูลในเอกสาร Buyer ได้แก่

  • ยอดขายเรา
  • เป้าเรา
  • OI (Other Income) ที่ตั้งเป้ากันไว้ / ใช้ไปถึงไหนแล้ว / ต้องการจากเราเพิ่มอีกเท่าไหร่
  • Front Margin / Back Margin ของสินค้าทุกตัว
  • % ยอดโต / ยอดตก ของสินค้าทุกตัว
  • ยอดของคู่แข่งเรา
  • ยอดขายแต่ละสาขา
  • การส่งของ / Service Level
  • เอาเป็นว่า ตัวเลขทุกตัว จัดซื้อมีครบหมด

นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เซลล์ (ที่เตรียมตัวมาไม่ดี) ไปไม่เป็น หน้าแหก สีข้างถลอก และถอยทัพกลับแบบไม่เป็นท่า พร้อมด้วยเลือดซิบ(เสียเงิน)

เชื่อผมเถอะ แม้คุณจะรู้แบบนี้แล้ว คุณส่วนใหญ่ก็ยังไม่ปรับตัว แถมยังวนลูปทำซ้ำเดิม คือ เดินไปหา Buyer แบบไม่เตรียนตัว ไม่เตรียมข้อมูลอยู่เหมือนเดิม

จัดซื้อเคยกลัวอะไรบ้างมั้ย?

Buyer ก็เป็นคนธรรมดแบบเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะ
ดังนั้น “ใช่ว่าจัดซื้อ จะไม่มีความกลัว”

แน่นอนจัดซื้อ กลัวเซลล์ที่แม่นและแน่นข้อมูล ถามอะไรตอบได้ น่าเชื่อถือ เป็น Expert ในด้านนั้นๆ แต่เอาจริงๆ เซลล์แบบนี้หาได้น้อยมาก

😅😅😅หนึ่งในความกลัวของจัดซื้อ หนึไม่พ้น “กลัวตกเทรนด์”
หรือ “Fear of Missing Out (FOMO)”

เพราะข้อมูลที่จัดซื้อมีนั้นเป็น “อดีต”
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใน “ห้างตัวเอง” เท่านั้น

Trend คือสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นใน “อนาคต” แน่นอนว่าบางครั้งอาจจะเดาถูก บางครั้งอาจจะเดาผิด แม้บางครั้งรู้ว่าอาจจะผิด “อาการกลัวตกรถไฟ” ก็เป็นสิ่งที่จัดซื้อไม่อยากให้เกิด

ตัวอย่างเช่น มาร์กหน้า ที่เมื่อก่อนมีขายน้อยมาก แทบไม่มีใครสนใจ แต่มีห้างนึงที่กระโดดเข้ามาก่อน เพราะร่วมมือกับซัพฯ
หรือครีมซองๆ ใน 7-11 ที่เมื่อก่อนไม่มีห้างใหญ่รายไหนสนใจแม้แต่น้อย
เรียกได้ว่า ตกขบวนกันไปหลายห้าง กระโดดขึ้นมาแทบไม่ทัน

สรุป

หน้าที่ของเซลล์ ไม่เพียงแต่การช่วยจัดซื้อ update เทรนต์ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มสินค้าที่ตัวเองอยู่ และ Support จัดซื้อให้เกาะเทรนด์นั้นแบบมีความเสี่ยงต่ำที่สุด

ครั้งต่อไป ไปหาจัดซื้อด้วยความมั่นใจด้วยการพก

  • ตัวเลขที่แม่นและแน่น
  • เทรนด์ในอนาคต พร้อมข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
  • Support ที่ทำให้จัดซื้อมั่นใจในการจับเทรนด์ แบบเสี่ยงน้อยที่สุด

แบบนี้จึงจะเรียกว่าเป็น Strategic Partner ที่แท้ทรู