คำถาม : …..Buyer ไม่ยอมให้ลงเมล์ บอกว่าลดราคาน้อยไป อยากได้ราคาเท่าคราวที่แล้ว
ปล. สินค้าเพิ่งขึ้นราคา แต่ Buyer อยากได้ราคาโปรที่ลึกเท่าราคาโปรเก่า ก่อนขึ้นราคา…..


ตอบ : ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจแบบนี้ครับว่า Promotion หรืก กิจกรรมส่งเสริมการขาย สามารถทำได้หลายแบบมาก ขอยกตัวอย่าง (เท่าที่นึกได้) เช่น

  • ซื้อชิ้นเดียวลดราคา (Price-off)
  • ซื้อ 2 ชิ้นลดราคา ( 2for / 3for )
  • ซื้อครบตามยอดซื้อที่ตั้งไว้ ลดราคาทันที
  • ซื้อ A แถม A (BOGO)
  • ซื้อ A แถม B (ซื้อตัวนึง แถมตัวนึง)
  • ซื้อ A + B แถม C
  • แจกของแถม ของพรีเมี่ยม
  • ราคาเดิม แต่ได้ปริมาณเพิ่ม (Free Weight, Bonus Pack)
  • สะสมยอดซื้อ/คะแนน สะสมครบได้ส่วนลดหรือได้เป็นของ
  • เป็นต้น
ประเภทของ Promotion

ถ้าสังเกตดีๆ ตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่า Promotion แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

  1. Price Promotion
  2. Non-Price Promotion

คือ แบบที่ไปยุ่งกับราคาขายหน้าร้าน (Price Promotion) กับแบบที่ไม่ไปแตะราคาขายเลย (Non-Price Promotion) แม้ไม่แตะตรงๆ แต่ก็เหมือนแตะอ้อมๆ

Price PromotionNon-Price Promotion
ซื้อชิ้นเดียวลดราคา (Price-off)ซื้อ A แถม A (BOGO)
ซื้อ 2 ชิ้นลดราคา ( 2for / 3for )ซื้อ A แถม B (ซื้อตัวนึง แถมตัวนึง)
ซื้อครบตามยอดซื้อที่ตั้งไว้ ลดราคาทันทีซื้อ A + B แถม C
แจกของแถม ของพรีเมี่ยม
ราคาเดิม แต่ได้ปริมาณเพิ่ม (Free Weight, Bonus Pack)
สะสมยอดซื้อ/คะแนน สะสมครบได้ส่วนลดหรือได้เป็นของ

ดังนั้น ถ้าให้ตอบคำถามข้างบนสั้นๆ ว่าไม่ทำราคาแล้วทำอะไรได้อีก ก็ต้องบอกว่า มีอะไรให้ทำเต็มไปหมด

แล้วจะเลือกเล่นโปรอะไรดี?

ก่อนอื่นต้องจูนกันใหม่ก่อนครับ

คนส่วนใหญ่คิดแบบนี้ ซึ่งผิด

❌ ทำโปร === เพื่อหวัง ===> เพิ่มยอดขาย

ที่ผิด คือ เรียงลำดับขั้นตอนไม่ถูกต้อง และคิดไม่สุดขั้นตอน

ที่ถูกต้อง ควรคิดแบบนี้ครับ

✅ต้องการเพิ่มยอด ===> ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ===> เลือก รูปแบบ Promotion ที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์

ตัวอย่างของ วัตถุประสงค์ในการจัด Promotion หรือ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น

  • Trade-up ทำให้ลูกค้าเดิม ซื้อสินค้า (เรา) ในกลุ่มราคาสูงขึ้น
  • Stock up ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าเดิม แต่ซื้อมากขึ้น
  • Brand Switching ทำให้ลูกค้าคู่แข่งมาซื้อสินค้าเรา
  • Clear Stock ระบายสินค้าโฉมเก่า / สต็อคบวม
    เป็นต้น

ถ้าเราแม่นวัตถุประสงค์​ ประเด็นอะไรก็สามารถอธิบายได้ เช่น
เราต้องการ Clear Stock สินค้าโฉมเก่าที่มีจำนวนเยอะ แบบนี้จะลดเยอะกว่าปกติหน่อยก็สามารถทำได้

  • ห้างอื่นที่ขายถูกกว่าบ่นมา เราก็อธิบายได้ หรือ
  • รอบหน้า Buyer ขอราคาลึกแบบนี้ เราก็สามารถบอกได้ว่า อันนี้เป็นสินค้าตัวใหม่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปลงราคาลึกขนาดนั้น เก็บ Margin/กำไร ไว้ดีกว่า เป็นต้น

สรุป

สรุปหลักการให้อีกครั้งนะครับ

❌ ทำโปร ===เพื่อหวัง===> เพิ่มยอดขาย

✅ ต้องการเพิ่มยอด ===> ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ===> เลือก รูปแบบ Promotion ที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์

ทีนี้ถ้าเจอ Buyer ขอราคาลึกไม่ลึก หรือขอโปร 1 แถม 1 รู้แล้วนะครับว่าจะรับมืออย่างไร