วันนี้คุยกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ได้ update สินค้าที่เค้าขาย channel online ปีที่แล้วโต 100% ด้วยสีหน้าภูมิใจ
รู้ว่านี่คือการดับฝัน แต่ก็อดไม่ได้ ผมสวนกลับทันทีว่า “น้อยไปสิ!!”
วันนี้ช่องทาง online โตแบบบิดเบี้ยว หรือจะเรียกว่าโตแบบไม่ธรรมชาติ
ที่ผมบอกแบบนั้นเพราะ เจ้าของ platform ทุกรายใช้ “ยาโด๊ป” เร่งโตกันอยู่
ทุกรายพร้อมขาดทุนเพื่อต้องการเปลี่ยนพฤติกรรม consumer
- เปลี่ยนคนที่ไม่เคยช็อป online ให้ลองสักครั้ง
- เปลี่ยนคนที่ช็อปอยู่แล้วให้(เสพ)ติด
- เปลี่ยนคนที่ติด ให้ซื้อเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ทำได้ไม่ยากครับ
- เก็บกำไรน้อยๆ
- ขายถูกที่สุด ถูกกว่าห้าง
- มีคูปองส่วนลดให้เรื่อยๆ
- โผล่ให้เห็นใน Facebook/ YouTube บ่อยๆ
- ส่งฟรี
- ส่งเร็ว
- ไม่ชอบ คืนของ คืนเงินได้
Lazada/Shopee/JD central ทำกันขนาดนี้ ถ้า Supplier อย่างเรา ไม่เร่งโตช่วงนี้จะไปโตช่วงไหนล่ะครับ
เห็นรึยังครับว่า 100% นี่น้อยไป!
และเมื่อทำการเปลี่ยนพฤติกรรม Consumer สำเร็จ ถอดยาโด๊ปต่างๆ ออก อยากจะให้โตแค่ 10% อันนี้ก็ไม่รู้จะเป็นไปได้รึเปล่า
ในเมื่อ demand ถูกปั่นขนาดนี้ เราแค่ใส่แรงเพิ่มอีกนิด คราวนี้ล่ะ โต 1,000% ก็เป็นไปได้
นี่ยังไม่นับปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ Channel Online น่าสนใจกว่าช่องทางอื่นๆ เอาแค่ Buyer ที่พร้อมร่วมมือทุกอย่างกับ Supplier ในการเติบโตแบบก้าวกระโดด แค่นี้อะไรก็เป็นไปได้หมด
แม้สัดส่วนยอดขายใน online จะน้อยมากเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ แต่ก็ไม่ต้องใช้ทรัพยากรเยอะเท่าช่องทางอื่น (อาศัยความเข้าใจเป็นหลัก) ช่องทางเล็กๆ แบบนี้อาจจะช่วยชีวิตภาพรวมทั้งบริษัทให้เปลี่ยนตัวเลข (ยอดขาย/กำไร) จากลบอ่อนๆ เป็นบวกอ่อนๆ ก็เป็นได้
เห็นรึยังครับว่า “ตั้ง Target ผิด ชีวิตเปลี่ยน ยังไง?”
Account Plan ที่ดี ต้องมีการตั้งการ Set Target ที่นอกจากจะทำถึงจริงแล้ว ยังต้องเก็บ Opportunity ต่างๆ ให้หมดทุกเม็ด
Account Plan หรือ Trade Plan เจ้าใหญ่ๆ บางเจ้านี่ ชวนลูกค้า(Buyer) ไล่จนถึงผู้บริหาร เปิดห้องประชุม ระดมสมองวางแผนร่วมกันว่าจะเติบโตร่วมกันได้ยังไง
ที่เล่าเพื่อให้เห็นความสำคัญของ Process นี้นะครับ ทั้งฝั่งเรา และฝั่งห้าง เพื่อให้ได้ Joint Business Plan ออกมา