ผมว่า Research อันนี้ดี และค่อนข้าง up-to-date เพราะทำเมื่อ 6 เมษาที่ผ่านมา Sample Size 4,859 คน จาก US, Canada, UK, France, Germany
EY พยายามศึกษาว่า โควิด ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย และอารมณ์ความรู้สึกของ Consumer เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ทั้งช่วง lock down และหลังจากทุกอย่างสงบ
สรุปสั้นๆ คือ มีการเกิด Segment ใหม่
- เกิด Consumer 4 Segment ใหม่ ในช่วงโควิด
- Cosnumer อีก 5 Segment ใหม่ หลังจากช่วงโควิดจบ
4 Segment ใหม่ ช่วง Covid
ช่วงโควิด (Lock Down) หากดู Shopping Behavior จะแบ่งได้เป็น 4 Segment
1. | 35% | Save and Stockpile |
2. | 27% | Cut Deep |
3. | 26% | Stay Calm, Carry on |
4. | 11% | Hibernate and Spend |
- Save and Stockpile กลุ่มประหยัด+ตุนของ คนกลุ่มนี้เป็นห่วงสวัสดิภาพครอบครัวตัวเองมากกว่าเรื่องโรค และมองเห็นอนาคต long-term ในทางลบ
- Cut Deep กลุ่มหักดิบ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด และมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง กลุ่มนี้ตัดค่าใช้จ่ายในสินค้าทุกกลุ่ม
- Stay Calm, Carry on กลุ่มสงบสยบความเคลื่อนไหว กลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด จึงคงรูปแบบการใช้จ่าย เป็นห่วงเรื่องนี้แทน คือ เกรงคนอื่นจะกักตุนทำให้ตัวเองหาซื้อสินค้าไม่ได้
- Hibernate and Spend กลุ่มจำศีลแต่พร้อมใช้จ่าย กลุ่มนี้แม้จะวิตกกังวลเรื่องโควิดมากเพื่อน แต่คิดบวกสุดๆ เกี่ยวกับอนาคต เลยใช้จ่ายมากกว่าเดิม ก่อนโควิดสะงั้น
ตัวอย่าง Behavior
👉ตัวอย่าง Behavior การจับจ่ายใช้สอยของแต่ละกลุ่มกลุ่ม (4) มีจำนวนคนที่ซื้อสินค้า Grocery มากกว่าเดิมถึง 53% รองลงมาคือ กลุ่ม (1) ซื้อมากกว่าเดิมถึง 36%
Clothing & Footwear เป็นสินค้าที่ทุกกลุ่ม ใช้จ่ายลดลงกันหมด กลุ่ม (2) ลดลงไปถึง 90% รองลงมาคือกลุ่ม (1) ลดลง 72% ในขณะที่ (4) นั้นสวนทาง เพราะแม้จะมีคนซื้อลดลงบ้าง แต่กลับมีคนที่ซื้อเพิ่มขึ้นถึง 20%
กิจกรรมที่เกี่ยวกับการพักผ่อนหย่อนใจ และความบันเทิง คนใช้จ่ายลดลงมากกว่ากลุ่ม Clothing & Footwear อีก แต่กลุ่ม (4) ก็ยังซื้อเพิ่มสวนอีกถึง 24%
เจาะกลุ่ม Hibernate and spend
ดูเหมือนกลุ่ม (4) จะเป็นเป้าหมายของ Supplier อย่างพวกเราทุกคน เพราะดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบ แถมยังมือหนักขึ้นกว่าเดิม
- คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อายุ 18 – 44 ปี
- มีเพียง 40% ของคนกลุ่มนี้บอกว่า Frequecy ในการ Shop ลดลง
- และ 42% มีการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมีนัย
- สุดท้ายเป็นเรื่องดี คือ 46% บอกว่าเค้าให้ความสำคัญเรื่อง Brand เพิ่มมากขึ้นอีก
5 Segment ใหม่ หลัง Covid
Research นี้บอกต่ออีกว่า หลังจากโควิด (หลังปลดล็อค) 4 Segment ที่กล่าวข้างต้น หากดู Shopping Behavior จะกลายร่างเป็น 5 Sement ใหม่ดังนี้
1. | 31.4% | Get to normal |
2. | 24.7% | Cautiously extravagant |
3. | 21.7% | Stay frugal |
4. | 13.1% | Keep cutting |
5. | 9.1% | Back with a bang |
- Get to normal – การใช้จ่ายกลับไปเป็นเหมือนเดิม
- Cautiously extravagant – ระมัดระวังการใช้จ่าย แต่พร้อมจ่ายเพิ่มสำหรับสิ่งที่จำเป็น (สุขภาพ)
- Stay frugal – ประหยัดมัธยัสถ์ ใช้เท่าที่จำเป็น จนกว่าจะสามารถยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้
- Keep cutting – รัดเข็มขัดสุดๆ เพราะขาดรายได้
- Back with a bang – ใช้จ่ายมากกว่าเดิม เพราะเคยชินกับการเปลี่ยนแปลง
👉สิ่งที่แบ่งแยกแต่ละกลุ่ม ค่อนข้าง ชัดเจน เช่น
- ผลกระทบจากโควิดที่มีต่องาน/รายได้ เช่น (2) คือกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง
- อายุ – เช่น (5) คือคนที่อายุน้อย ยอมจ่ายเพื่อความสุข
- การศึกษา – เช่น (4) ที่ได้รับการศึกษาน้อยที่สุด
ผมยกเนื้อความสำคัญ นำมาสรุปแค่บางส่วนเท่านั้น ใน Research นี้ยังมีข้อมูลดีๆ ให้ตีความอีกเพียบครับ ถ้ามีเวลา แนะนำให้เข้าไปดูแบบละเอียดครับ https://www.ey.com/en_us/consumer-products-retail/how-covid-19-could-change-consumer-behavior