คนแก่คุยกัน หัวข้อที่คุยก็จะเก่าๆ ประมาณนี้
- ค่ารถเมล์ 6 สลึง
- กาแฟในกระป๋องนมข้น หูหิ้วร้อยด้วยเชือกฟาง
- โกเต็กห่อกระดาษหนังสือพิมพ์
- ตั๋วหนัง 20 บาท
หัวข้อสนทนาของผมกับรุ่นพี่ (จัดซื้อ) ที่อายุห่างกัน 14 ปี ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องอดีตชาติ ย้อนไปสมัยเด็กสมัยก่อน ความเปลี่ยนแปลงมาด้วยอัตราเร่งที่ช้ามากกกกกกก ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปแบบช้า ถึงช้ามาก
“ช้า” ขนาดคนที่อายุห่างกัน 14 ปี ได้รับประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่ใกลีเคียงกัน
โลกหมุนเร็วขึ้นๆ
ผิดกับสมัยนี้ เอาแค่ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็พอ
ยังจำได้มั๊ย ตอนที่เราบังคับให้พ่อแม่ปู่ย่าเราเล่น LINE ซึ่งส่วนใหญ่ก็บอกว่าไม่เอา ไม่เล่น ใช้ยาก แต่ตอนนี้เป็นไงครับ
จากปัจจัยเรื่อง Technology และพฤติกรรมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปแบบคาดเดาไม่ได้ ทำให้การ Win Consumer ในอนาคตจะยากขึ้นเรื่อยๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ถ้าอยากจะเตรียมตัว แนะนำให้ดู Trend ต่าง ๆ ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น
8 สิ่งที่กำหนดทิศทาง Consumer แห่งอนาคต
และนี่เป็นอีกหนึ่งสำนักที่สรุปสิ่งต่างๆที่เราจะต้องรับมือ ในปี 2030
บริษัท Ernst & Young (บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก) ตั้งคำถามให้พวกเราคิด และปรับตัว กับความเป็นไปได้เหล่านี้
- จะทำอย่างไร ถ้าการซื้อสินค้า ไม่ใช่การเดิน Shopping อีกต่อไป
- จะทำอย่างไร ถ้าลูกค้าไม่สนใจซื้อสินค้า แต่เปลี่ยนมาซื้อ Life Style แทน
- จะทำอย่างไร ถ้าเรื่อง “สุขภาพดี” เป็นเรื่องแรก และเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนคำนึกถึงตลอดเวลา
- จะทำอย่างไร ถ้า Data ต่างๆ ที่วัดได้จากพฤติกรรมของคุณเอง เป็นตัวตัดสินใจว่าคุณควรกินอะไร
- จะทำอย่างไร ถ้า Technology ผสมผสานกับการใช้ชีวิต จนกลายเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแบ่งแยกได้ กลืนกันจนไม่อาจสังเกตเห็น
- จะทำอย่างไร ถ้าการคนใช้ชีวิต ด้วยอารมณ์ประหนึ่งการเล่นเกมส์ แข่งขันกัน เก็บแต้ม ล่ารางวัล
- จะทำอย่างไร ถ้าการใช้หุ่นยนต์แทนคนแพร่หลาย ใครคือคนรับผิดชอบงานที่หุ่นยนต์ทำ ผลตามมาคือ คนตกงานไม่มีเงินใช้จ่าย
- จะทำอย่างไร ถ้าการเดินทางสะดวกสบายแบบไร้รอยต่อ คนไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์อีกต่อไป
ที่มา : https://www.ey.com/en_gl/growth/eight-forces-that-will-shape-the-future-consumer
สรุป
Consumer Behavior เปลี่ยนตลอดเวลามาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว แต่ปัจจุบันเปลี่ยนด้วยความเร็วปีศาจ คือ ยังไม่ทันชินกันอันเดิมเลย เปลี่ยนอีกแล้ว
ในแง่นักขาย นักการตลาด ตอนนี้ต้องคิดเร็ว ตั้งสมมติฐานให้ไว ลงมือทำเร็ว วัดผลด่วนๆ ว่าคิดถูก หรือคิดผิด ไม่ใช่แผนใหม่เพิ่งคิดเสร็จ ปรากฎว่า Consumer Behavior เปลี่ยนอีกละ แบบนี้ไม่ดีๆ
Buyer เองก็รู้เรื่องพวกนี้ และปรับเปลี่ยนเร็วกว่าที่เราคิด ดังนั้น ถ้าจะไปด้วยกัน ก็ต้องเดินด้วยจังหวะความเร็วที่สมกัน