Birth Rate หรือ อัตราการเกิดของไทย แตะ New Low เด็กเกิดลดเหลือหลัก 6แสนคน เป็นครั้งแรก

ช่วง 20 – 30 ปีที่แล้ว อัตราการเกิดเฉลี่ยอยู่แถวๆ 1 ล้านคนมานาน

ตัดมา 20ปีที่แล้ว อัตราการเกิดต่ำกว่า 8 แสนคนเป็นปีแรก แล้วก็วิ่งอยู่แถว 8แสนคน ขึ้นๆลงๆ แถวๆนี้มาเกือบ 20 ปี
หลังจากปี 2555 ตัวเลขก็ตกลงมาเรื่อยๆ

ปี พ.ศ.อัตราการเกิด (คน)
2555818,901
2556782,129
2557776,370
2558736,352
2559704,058
2560702,755
2561666,357
2562618,193
ที่มา : กรมการปกครอง

และปี 2561 เป็น New Low เด็กเกิดลดเหลือหลัก 6แสนคน เป็นครั้งแรก

หลังจากนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า อัตราการเกิดคงจะมีแต่ลดลงๆ เรื่อยๆ ตามสภาพเศรษฐกิจ, การศึกษาที่สูงขึ้น, Life Style ที่เปลี่ยนไป

ผลกระทบกับวงการ FMCG

สิ่งที่พวกเราชาว FMCG ต้องกังวล คือ ตัวเลขยอดขายที่โตแบบปีละ 2 Digit คงหาได้ยาก และจะยากมากในสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับเด็ก เช่น

  • นมผงเด็ก
  • ผ้าอ้อมเด็ก
  • นม UHT
  • เครื่องดื่มที่เน้นเด็ก
  • ขนม นม เนย
  • น้ำหวาน
  • ของเล่นเด็ก

เอาเข้าจริง เด็กเหล่านี้ เมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็น Consumer ของสินค้า FMCG กลุ่มอื่นๆ ต่อไป ดังนั้น ตอนนี้อาจจะกระทบแค่สินค้ากลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับเด็ก แต่อีกไม่กี่ปี ก็จะกระทบไปสินค้าทุกกลุ่มอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

2 ความยากของสินค้าเด็ก

ผมเล่าให้นักเรียนที่เข้า Workshop ฟังเสมอว่า สินค้าเด็กเป็นสินค้าที่ยาก เพราะ End Consumer มีช่วงเวลาในการ Consume (กิน/ใช้) สินค้าเราจำกัด พอโตขึ้นถึงวัยนึง ก็เลิกใช้และไม่ใช่ Target Group อีกต่อไป
เช่น นมผง พออายุเกิน 1 ขวบ ก็จะเริ่มทานน้อยลง และหลังจาก 3 ขวบก็แทบจะไม่ได้ทานแล้ว

ดังนั้น Marketing ก็พยายามอย่างหนักในการหา End Consumer ใหม่ๆ ให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และหยุดทำการตลาดไม่ได้เลยแม้เต่น้อย

นั่นคือความยากดอกแรก มาเจอดอกที่สองคือ Population ของ Target Group ซึ่งคือจำนวนเด็กลดน้อยลงอีก
เดาไม่ยากว่าหลังจากนี้ สินค้าที่มี Target Group ที่เป็นเด็ก จะต้องระอุมาก ถึงมากที่สุด

ยากแรก : ต้อง Recruit New User ตลอดเวลา
ยากสอง : ฺBirth Rate ลดลง

ท้ายที่สุด ก็ต้องโยงไปถึงร้านค้า/ห้าง ที่ต้องเปิดศึกแย่งชิงลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน

สรุป

เมื่อมองเห็นแบบนี้แล้ว คงต้องปรับตัว ปรับ Mindset ปรับ Strategy อย่างด่วน เพื่อรับมือ

ปรับ Mindset ที่ว่า สินค้าเราดี Brand เรา Strong ยังไงก็มีคนซื้อ

ส่วนการปรับ Strategy ที่พอนึกออกเช่น

  • Trade up : เพิ่มยอดขายโดย ทำให้ Consumer จ่ายแพงขึ้น (คุณภาพดีขึ้น) เช่น สูตรดีพิเศษ
  • Increase Consumption : เพิ่ม Consumptionใช้สินค้าเราบ่อยขึ้นมากขึ้น เช่น ทำให้เปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ
  • New Product Line up : ออกสินค้าต่อเนื่องให้ Consumer ใช้สินค้า Brand เราไปเรื่อยๆ เช่น เลิกกินนมผง/นมชง ให้กินนม UHT ต่อ
  • New Target Group : ออกสินค้าขยายไปยัง Target group เดิม เช่น เน้นไปยังคุณแม่ เช่น นมสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

ทำก่อน ลองก่อน เห็นผลก่อน

ส่วนใครที่ไม่อยู่ในกลุ่มนี้ ก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะช้าเร็ว Birth Rate ต่ำ ก็จะกระทบไปสินค้าทุกกลุ่มอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก