ใน UK ช่องทาง online มีสัดส่วนเกิน 1 ใน 4 ของยอดรวม Retail ไปแล้ว

emarketer.com รายงานว่า ช่วง Holiday Season ใน UK (พฤศจิกายน+ธันวาคม) จากยอดขาย 4ล้านล้านบาท ถูกช่องทาง online เอาไป 28.2% แล้ว

นอกจากสัดส่วนร้าน Offline จะตกลงมาเหลือแค่ 71.8% แล้ว ยังทำให้ยอดขายในช่องทางนี้ติดลบ -3.8% มากที่สุดย้อนหลังไป 5 ปี

เอาจริงๆ ถ้าดูจาก Trend ก็พอจะเดาได้ไม่ยาก แต่ปี 2019 นี่ช่องทาง Online ก็ Top Form สุดๆ

UK Holiday Season Brick-and-Mortar Retail Sales, 2015-2019 (billions of £, % change and % of holiday season retail sales)

เทียบสัดส่วนระหว่าง Offline : Online

  • 2015____82.5% : 17.5%
  • 2016____81.6% : 18.4%
  • 2017____80.4% : 19.6%
  • 2018____76.5% : 24.2%
  • 2019____71.8% : 28.2%

สาเหตุหลักตามข่าวบอกว่า

“Store closures are a big reason for shopper frustration and the subsequent shift to online as their preferred option,”

1) ร้านรวงปิดตัว
2) เปลี่ยนพฤติกรรมที่ไปใช้ Online

ที่มาข่าว : https://www.emarketer.com/…/ecommerce-in-the-uk-surpassed-2…

สถานการณ์ร้าน Offline ที่ UK อาการหนักมากๆ เพราะนอกจากตลาด Retail ภาพรวมโตต่ำมากแล้ว (ปี 2020 คาดการณ์ว่า โต 1.2%) ยังต้องมาสู้รบปรบมือกับช่องทาง Online อีก

ดูจาก Trend ตัวเลขแล้ว คงสู้ไม่ไหว ใครสายป่านไม่ยาวคงต้องถอย ปิดตัวกันไป

บ้านเราผมว่าก็ Trend คล้ายๆ กัน แต่สัดส่วน Online ยังเด็กน้อยมาก (ยิ่งเทียบกับ UK)

ในมุม Supplier คงต้องวาง Strategy เรื่อง Channel Management ให้ดีๆ แม้ลูกค้าจะแค่เปลี่ยนช่องทางการซื้อก็ไม่ว่า ขอให้ซื้อของเราเหมือนเดิมก็พอ

จะเร่ง/ผ่อน ช่องทางไหน
จะลด/เพิ่ม Investment ช่องทางไหน

เมื่อก่อนการเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด คือ ต้องครองทุกช่องทาง

แต่ยุคนี้ Online ไม่ใช่แบบนั้น สามารถพลิกได้ทุกเมื่อ

Brand เบอร์รองตลอดกาล ก็สามารถเป็นที่ 1 ใน Online Channel ได้ (มีให้เห็นเยอะ ลองดูผ้าอ้อมเด็กดูครับ)

ส่วนใครที่ดูแล MT / TT คงต้องเตรียมรับแรงกระแทก

แต่เอาจริงๆ ผมยังเชื่อมั่นในช่องทาง MT เพียงแต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนการทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลให้ลึกขึ้น บริหารหน้าร้านให้เปีะที่สุด พูดง่ายๆ ไปไล่เก็บให้ครบทุกเม็ด (อย่าหลอกตัวเองนะครับว่าเก็บหมดแล้ว เชื่อผม เก็บยังไงก็ไม่หมดครับ)