ถ้าอยากจะดู Trend Online Channel ว่าจะไปทางไหน ไปถึงไหน แนะนำให้ดูตลาด USA เลยครับ

ตามภาพคือเป็นสัดส่วน Share จากตลาดรวมของ Retailer แต่ละเจ้า (ตัดเฉพาะ Top 20)

จะเห็นว่า Online Retailer อย่าง Amazon แชร์ไปเกือบจะครึ่งอยู่แล้ว ในขณะที่ Retailer Off-line ส่วนใหญ่ เสียแชร์ไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

ส่วนตัวผมคิดว่า Retailer ในไทย ท้ายที่สุดแล้ว ฝั่ง Online ไม่น่าไปไกลถึงครึ่งนึงแบบ USA

อีกสัก 10 ปี Online share ได้ 10% – 20% ก็หรูแล้ว

  • US ประเทศใหญ่มาก คนชินกับซื้อของทางไปรษณีย์กันมากนานแล้ว แปลว่าชินกับการซื้อของแบบไม่ต้องจับต้อง
  • US คนที่ Lead คือ Amazon ต้องบอกว่า เป็นเจ้าที่พัฒนาตัวเองแบบขีดสุด ดีขึ้น เร็วขึ้น ตลอดเวลา ในขณะที่ราคาถูกลงๆ (ใครจะไม่อยากซื้อล่ะจริงมั๊ย)
  • คนไทยที่ซื้อ Online จริงจัง ยังมีสัดส่วนน้อย หากอยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมคงยากมากๆ (เช่น คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิต, และยังชอบสั่งของแบบเก็บเงินปลายทางอยู่ [ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่เชื่อใจระบบ ค้าขายแบบไม่เห็นหน้ากันเป็นๆ])
  • ห้างไทยน่าเดินกว่ามาก หาง่าย ไปง่าย ทำกิจกรรมได้(เกือบ)ทุกอย่างในห้างเดียวจบ
  • ห้างไทย Renovate บ่อย เพราะรู้ว่าคนไทยขี้เบื่อ
  • ห้างไทยถือว่าคล่องตัวกว่าในการปรับตัว
  • เท่าที่นึกออกตอนนี้มีประมาณนี้ครับ

ส่วนตัวผมอยากให้คนในวงการ FMCG หรือ Supplier

“มองช่องทาง Online เป็นตัวช่วยเติมเต็ม”

เอาไว้รองรับรับลูกค้าที่ช่องทางอย่างห้างเข้าไม่ถึง (เช่น อยู่ไกล หรือสภาพร่างกายไม่อำนวย [คุณแม่เพิ่งคลอดลูก, คนแก่]) พูดง่ายๆ เป็นลูกค้า New New

ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้สนใจเรื่องราคา (จริงๆ สนใจบ้าง แต่ก็ไม่มากขนาดนั้น) แต่ความอยากได้สินค้าเรามีมากกว่า แต่เมื่อก่อนซื้อหาลำบาก หรือ ไม่มีทางหามาได้

กลับกลายเป็นว่า ตอนนี้เห็นแต่ละเจ้าถล่มราคากัน ทำให้รู้สึกว่าเป็นการใช้ spending ที่ไม่คุ้มค่า คือ ย้ายลูกค้าจากกระเป๋าซ้าย ไปกระเป๋าขวา แถมได้ยอดขายน้อยลงอีกต่างหาก

ที่มาข้อมูล : twitter @retailgeek