ข่าวใหญ่วงการค้าปลีกจากฝั่งอังกฤษตอนนี้คือ Tesco กลับมาท็อปฟอร์มอย่างน่าทึ่ง ส่วนแบ่งตลาดพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี แซงหน้าคู่แข่งไปไกล
Q1 2025 results:
- Group like-for-like sales up 4.6%
- UK food sales +5.1%, non-food +6.2%
- Online sales +11.5%
- 28% market share (24 รอบติด-รอบละ 4วีค)
และนี่คือ 4 หมัดเด็ดทวงแชมป์
1. สงครามราคาที่เหนือชั้น: ไม่ใช่แค่ “ถูก” แต่บวกกับ “โคตรฉลาด”
ใครๆ ก็ลดราคาได้ แต่ Tesco ทำในแบบที่เหนือกว่า คือการผสมผสานใช้ 3 กลยุทธ์พร้อมกัน
1.1. Aldi Price Match: ประกาศเทียบราคาสินค้ากว่า 700 รายการกับ Aldi (ห้างคู่แข่ง) ซึ่งเป็น Discounter ตัวพ่อ เป็นการปิดประตูไม่ให้ลูกค้าที่สนใจเรื่องราคาหนีไปไหนได้
1.2. Everyday Low Prices: ล็อกราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
1.3. Clubcard Deals: นี่คือหมัดน็อก! ราคาพิเศษที่ลดแบบถล่มทลาย “เฉพาะสมาชิก” ทำให้ลูกค้าประหยัดได้สูงสุดถึงปีละเกือบ 400 ปอนด์ (ประมาณ 18,000 บาท) แบบนี้ใครๆ ก็ต้องยอมสมัครบัตร
บทเรียน: การทำราคาไม่ใช่แค่การลด แต่คือการสร้าง “กำแพง” ป้องกันคู่แข่ง และ “แม่เหล็ก” ดึงดูดลูกค้าในเวลาเดียวกัน
2. Clubcard: ไม่ใช่แค่บัตรสะสมแต้ม แต่คือ ‘เครื่องจักรทำเงิน’ ตัวใหม่
นี่คือเกมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ยอดขาย 84% ผูกกับบัตร Clubcard ทำให้ Tesco มีข้อมูลลูกค้าในมือมหาศาล และพวกเขากำลังใช้มันสร้างธุรกิจใหม่ที่กำไรสูงลิ่ว นั่นคือ Retail Media
Tesco กำลังเปลี่ยนพื้นที่ในร้านและบนเว็บให้กลายเป็น “สื่อโฆษณา” โดยขายข้อมูลพฤติกรรมการซื้อให้แบรนด์ต่างๆ (ให้ซัพฯ อย่างเรา) เพื่อยิงแอดได้ตรงเป้าหมายสุดๆ ปีที่แล้วมีแบรนด์มาทำแคมเปญด้วยกว่า 700 ราย สร้างรายได้ก้อนใหม่ให้ Tesco โดยไม่ต้องขายของเพิ่มสักชิ้น
บทเรียน: Loyalty Program ไม่ใช่ Cost Center อีกต่อไป แต่มันคือ Profit Center ที่ทรงพลังที่สุด ถ้าคุณมี Data อยู่ในมือ
3. บุกทุกที่ที่ลูกค้าอยู่ (Omnichannel ที่เอาไปใช้ได้จริง)
ยอดขายออนไลน์โต 10.2% ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการความสะดวกในทุกรูปแบบ
3.1. ขยาย Marketplace: ดึงแบรนด์อื่นเข้ามาขายบนเว็บตัวเอง สร้าง Traffic และรายได้ค่าคอมมิชชั่น
3.2. ส่งด่วน Whoosh: บริการส่งของเร็วใน 60 นาที ขยายไปแล้วกว่า 1,500 สาขา แย่งชิงตลาด “convenience” ที่กำลังโต
4. House Brand ระดับ “แสนล้าน” ที่คนยอมจ่าย
Tesco พิสูจน์แล้วว่า House Brand ไม่จำเป็นต้องเป็นของถูกเสมอไป แบรนด์ระดับพรีเมียมอย่าง “Tesco Finest” มียอดขายสูงถึง 2.5 พันล้านปอนด์ (กว่า 1 แสนล้านบาท) และโตขึ้นอีก 15% ในปีเดียว ด้วยการออกสินค้าใหม่กว่า 400 รายการที่เน้นคุณภาพและนวัตกรรม
บทเรียน: การสร้างแบรนด์ของตัวเองคือการสร้าง Margin และอำนาจต่อรองที่ยั่งยืนที่สุด
หัวใจของหัวใจ
“วินัยทางการเงินที่โหดสุด” Tesco ลดต้นทุนไปกว่า 580 ล้านปอนด์ แล้วนำเงินนั้นมาเป็น “กระสุน” เพื่อลงทุนในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ราคา, ดิจิทัล และคุณภาพสินค้า เพื่อบดขยี้คู่แข่ง
บทเรียนสุดท้ายสำหรับห้างไทย: เคสนี้คือสัญญาณเตือนห้างใหญ่ๆ ในไทยว่า ไม่ใช่ใหญ่แต่ตัว เก่งแต่กับซัพฯ การมีแค่สาขาเยอะๆ ไม่พอแล้ว ผู้ชนะในเกมค้าปลีกยุคต่อไปคือผู้ที่สามารถเปลี่ยน Data ให้เป็นเงิน, สร้าง Ecosystem ที่ไร้รอยต่อ และมีวินัยในการลงทุน เพื่อสร้างความได้เปรียบที่คู่แข่งตามไม่ทันครับ
———-
มีประเด็นปัญหา ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ คุณป๊อป
โทร : 083-123-8814
Line-ID : @italent (add friend จากมือถือคลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40nai6405r )
อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับ FMCG + MT ย้อนหลัง หรือค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจได้ที่ https://MTclinic.iTalent.co.th
================
👉บริษัท ITalent Thailand – FMCG & Retail Specialist 👈
“Service FMCG ครบจบที่เดียว”
📌รับปรึกษา (เพิ่มยอดขาย, ลดค่าใช้จ่ายห้าง, วางแผน/การตลาด, Listเข้าห้าง, วางระบบ)
📌หางาน-หาคน (Recruitment Agency ส่ง Resume มาที่ chutipong@iTalent.co.th)
📌บริหารหน้าร้าน (PC/Merchandiser Service, หาพื้นที่พิเศษ, Retail Audit)
📌พัฒนา Skill/Competency (Training / Coaching)