ชอบมีคนบอกว่า”ถ้าไม่ไป Online จะตกขบวน””เดี๋ยวนี้คนซื้อ Online กันหมดแล้ว””คนเลิกเดินห้างแล้ว”

ถ้าจำกันได้ ผมเคยเล่าไว้ว่า ตอนนี้พวก Online Platform เจ้าใหญ่ ต่างขาดทุนกันหมด (Lazada, Shopee, JD.com เป็นต้น) นั่นเพราะยังอยู่ใน State ที่เค้า “ลงทุน” ไม่ใช่ “ถอนทุน”

การลงทุน มีทำในหลายด้าน แต่เรื่องที่ผลาญเงินเยอะสุด คือ

การเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนเสพติดการซื้อ Online นั่นคือ ขายราคาถูกมาก และส่งฟรี

ซึ่งถ้าคุณเป็น Supplier หรือ Retailer คุณต้องอ่านให้ขาด ว่านี่คือการแข่งขันที่ไม่ปกติ เพราะห้างร้านปกติ ใครจะยอดขายขาดทุน ล่ะครับ

ถ้าคุณเป็น Supplier ที่เข้าใจ คุณจะตักตวงผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ มีหลายเจ้าที่เป็นแบบนั้น ลงศึกษาดูนะครับ เช่น L’Oreal, Foremost, Babylove เป็นต้น

อาจจะมีบางคนบอกต่อว่า ดูอย่างอเมริกาสิ ห้างปิดกันให้ลึ่ม! คนไปซื้อ Online กันหมดแล้ว ห้างเจ๊งกันเป็นแถบ

ขอยกตัวอย่างข่าวล่าสุดให้ดูว่า ห้าง Offline สู้ศึก Online ด้วยกลยุทธ์อะไรบ้าง

ห้าง Target (แนว Hyper คล้าย Tesco, Big C) ประกาศลงทุนขยาย Offline แทนที่จะไป Online เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นเงิน 2แสนกว่าล้านบาท

และวันนี้เห็นผลแล้ว ทั้งกำไร ทั้งโต ทั้งราคาหุ้นพุ่งสูงสุด

นี่คือสิ่งที่ Target ทำ

  1. Renovate สาขาเดิม ให้น่าเดิน
  2. เปิดสาขาใหม่เพิ่ม แต่ไปด้วยขนาดเล็กลง
  3. ใช้ Online เพิ่ม Traffic ให้ Offline
  4. ทำ Own Brands ให้ work

อ่านเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใช่มั๊ยครับ ครับ!! Retail ก็มีแค่นี้ล่ะครับ

เพียงแค่ CEO ปรับ Mindset แค่นั้นเองMindset เดิม คือ ห้างเราอยู่ใน State ที่ทำกำไร ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย

Mindset ใหม่ คือ แม้จะอยู่ใน State ที่ทำกำไร แต่ก็ต้องอย่างลืมจุดแข็งของ Offline ดังนั้นต้อง “ลงทุน” ให้หนัก เพื่อใช้จุดแข็งเอาชนะใจลูกค้า ทำในสิ่งที่ Online ไม่มีวันทำได

ผมก็ยังเชื่อเหมือนเดิม สำหรับ Retail ในไทยว่า

“ท้ายที่สุด Offline ไม่ได้แพ้ Online”

อ่านเรื่องห้าง Target แบบละเอียดได้ที่ https://money.com/target-secret-turnaround/